อาการวัยทอง ถ้าลองมองดูให้ดี ก็จะทำให้ทุกคนเข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติของร่างกายที่ทุกคนจะต้องพบเจอหลีกหนีไม่พ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ตาม เพียงแต่การดำเนินชีวิตในช่วงวัยทองของคุณจะง่ายขึ้นมาก ๆ ถ้าเราทุกคนทำความรู้จักกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า และนำความรู้เหล่านี้ไปเตรียมตัวให้พร้อม ตั้งรับก่อนที่วัยทองจะก้าวเท้าเข้ามาสู่ชีวิตของคุณอย่างเต็มที่
วันนี้ทาง Vitalia Wellness Clinic จะมาแนะนำให้ความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับช่วงอาการวัยทองกัน เพราะทั้งผู้หญิงและผู้ชายสามารถพบเจอกับอาการวัยทองเหล่านี้ได้ทั้งหมด เพียงแต่ว่าผู้หญิงจะพบกับเอฟเฟคที่เข้ามากระทบต่อการใช้ชีวิตมากกว่าเท่านั้นเอง ซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านไหนบ้าง ต้องเตรียมตัวรับมือยังไง วัยทองควรกินวิตามินอะไร วัยทองควรดูแลตัวเองอย่างไรมาทำความรู้จักกับอาการวัยทองให้ดีขึ้นกันเลย
วัยทองจะมาหาเมื่อเราเริ่มเข้าสู่ “วัยหมดประจำเดือน” หรือจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 45 - 55 ปี แต่สำหรับบางคนก็อาจเกิดขึ้นเร็วกว่านี้ก็ได้ ภาวะช่วงวัยหมดประจำเดือนเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งระยะเวลาของการเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน จะดำเนินต่อกันเป็นระยะเวลายาวนานหลายปี
เริ่มจากประจำเดือนจะค่อย ๆ ลดลงทีละนิด หรือประจำเดือนมาบ้างไม่มาบ้าง จนกระทั่งถ้าไม่มีประจำเดือนเลยต่อเนื่องกัน 12 เดือน ก็ถือว่าคุณเข้าสู่ภาวะวัยหมดประจำเดือนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วงวัยทองนี้ นอกจากการมาของประจำเดือนที่ไม่ปกติแล้ว ก็ยังมีอาการที่ไม่พึงประสงค์อีกหลายอย่าง เช่น
อาการที่ไม่พึงประสงค์เหล่านี้ จะอยู่กับคนวัยทองนานมาก ถึงแม้ว่าร่างกายจะเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนโดยสมบูรณ์แล้ว แต่บางคนอาการวัยทองก็จะยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งก็จะทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกว่าการใช้ชีวิตยากขึ้น ไม่มีความสุข จากที่หงุดหงิดอยู่แล้วก็ยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นเข้าไปอีก ดังนั้นนี่จึงเป็นเหตุผลที่เราอยากจะแนะนำให้คุณเตรียมตัวตั้งรับกับอาการวัยทองที่จะเกิดขึ้นเอาไว้ เพื่อที่คนวัยทองจะอยู่ร่วมกับภาวะนี้ได้อย่างมีความสุขมากที่สุด และสามารถใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่เหมือนอย่างที่เคยใช้ มีหลายสิ่ง หลายอย่างมากที่คุณสามารถทำได้เพื่อช่วยบรรเทาอาการวัยทองนี้
วิธีเตรียมรับมือกับอาการวัยทองที่อาจจะเกิดขึ้น คือ ควรรู้ก่อนว่าวัยทองควรกินวิตามินอะไร วัยทองควรดูแลตัวเองอย่างไร เพราะเราทุกคนไม่อาจหลีกหนีอาการวัยทองที่จะเกิดขึ้นได้ แต่เราทุกคนสามารถวางแผนเตรียมรับมือเพื่ออยู่กับอาการวัยทองอย่างเข้าใจและมีความสุขได้มากที่สุด ด้วยการรับประทานอาหารที่ดี การออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพจิต จะสามารถช่วยบรรเทาอาการวัยทองได้ และในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการดูแลสุขภาพของตัวเอง ทำให้แม้ว่าคุณจะมีอายุที่เพิ่มมากขึ้นแล้วแต่สุขภาพก็ยังดีอยู่ มาทำตามวิธีเหล่านี้
วิธีบรรเทาอาการร้อนวูบวาบ และอาการเหงื่อออกตอนกลางคืน นอกจากรู้ว่าวัยทองควรกินวิตามินอะไร เราจะพาไปดูว่าวัยทองควรดูแลตัวเองอย่างไร ไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าว ซึ่งสามารถแก้ได้ ดังนี้
วิธีป้องกันกระดูกอ่อนแอ และเสริมสร้างให้กระดูกแข็งแรง ลดความหงุดหงิดเมื่อเข้าสู่วัยทอง ทำได้โดย
การเลือกวิตามินสำหรับวัยทอง นอกเหนือไปจากการทานอาหารเพื่อสุขภาพ การทานผักและผลไม้จำนวนมาก ทานโปรตีนไร้ไขมัน พืชตระกูลถั่ว ไขมันดีและคาร์โบไฮเดรตที่ดีต่อสุขภาพแล้ว หนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการฮอร์โมนและลดอาการวัยหมดประจำเดือน คือการเลือกทานอาหารเสริมอีกเพื่อทำให้ร่างกายของคุณยังคงมีความแข็งแรงและมีสุขภาพดี วัยทองควรกินวิตามินอะไร วัยทองควรดูแลตัวเองอย่างไรและจะต้องเจาะจงวิตามินตัวไหนบ้างถึงจะเหมาะสมกับคนวัยทอง Vitalia Wellness Clinic ก็มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกัน
แมกนีเซียมมีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกาย มีความผูกพันธ์ทุกอย่างตั้งแต่การทำงานของกล้ามเนื้อและเส้นประสาท ไปจนถึงการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิต การสร้างกระดูก และการเผาผลาญพลังงาน
สำหรับผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน แมกนีเซียมจะช่วยบำรุงสุขภาพหัวใจ ลดความดันโลหิต ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน ช่วยในการลดความเสียงในการเป็นโรคกระดูกพรุน และแมกนีเซียมไกลซิเนต ยังช่วยคลายความวิตกกังวล บรรเทาอาการปวดข้อ ช่วยทำให้นอนหลับดีขึ้น ลดอาการร้อนวูบวาบ
*ข้อควรระวัง : การได้รับแมกนีเซียมในปริมาณที่มากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง คลื่นไส้ และเกิดตะคริวอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรบริโภคไว้ไม่เกิน 350 มก. ต่อวัน
ร่างกายของเราสามารถรับวิตามิน A ได้ 2 รูปแบบ แบบแรก คือ เรตินอล ได้มาจากการทานเนื้อสัตว์ และนม และอีกแบบคือเบต้าแคโรทีน ที่ได้มาจากผักและผลไม้ในรูปแบบแคโรทีนอยด์ ซึ่งจะถูกแปลงเป็นวิตามิน A ในร่างกาย ช่วยในการมองเห็น กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน และกระตุ้นการทำงานของต่อมไทรอยด์
*ข้อควรระวัง : ปริมาณที่แนะนำต่อวันคือ 700 ไมโครกรัม การรับประทานวิตามิน A มากเกินไปอาจส่งผล ทำให้เกิดอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ
วิตามินบี 6 ทำให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดี กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ส่วนวิตามินบี 12 จำเป็นต่อการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องหัวใจและสมอง ช่วยทำให้ลำไส้มีสุขภาพที่ดี นอกจากนี้วิตามินบี 6 ยังช่วยป้องกันภาวะซึมเศร้าในวัยหมดประจำเดือน และอาจช่วยเรื่องการนอนไม่หลับ และช่วยลดอาการร้อนวูบวาบได้ด้วย
ปริมาณที่แนะนำต่อวันของบี 6 คือ 1.3 มก. สำหรับผู้หญิงที่มีอายุ 50 ปีหรือน้อยกว่านี้ และ 1.5 มก. สำหรับผู้ที่มีอายุ 51 ปีขึ้นไป ส่วนวิตามินบี 12 แนะนำให้ทาน 2.4 ไมโครกรัมสำหรับผู้ใหญ่ทุกคน
*ข้อควรระวัง : การทานวิตามินบี 6 มากเกินไปอาจทำให้เส้นประสาทเสียหายได้ ดังนั้นควรทานไม่เกิน 100 มก. ต่อวัน
วิตามินเค มีความสำคัญต่อความหนาแน่นของกระดูก โดยที่ความหนาแน่นของกระดูกของคนเราจะค่อย ๆ ลดลง เมื่อเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงที่กระดูกหักง่ายมากขึ้น ดังนั้นการรับประทานผักใบเขียวให้มากขึ้น หรือรับประทานอาหารเสริมวิตามินเค ก็จะเข้าไปเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ช่วยลดความเสี่ยงที่กระดูกจะหักลงไปได้ ปริมาณที่แนะนำต่อวัน คือ 90 mcg และร่างกายของเราจะดูดซึมนำวิตามินเคไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อรับประทานร่วมกับวิตามินดี
*ข้อควรระวัง : หากคุณกำลังทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด ควรปรึกษาคุณหมอก่อนเลือกทานอาหารเสริมวิตามินเคทุกครั้ง
ช่วยในการสมานแผล บำรุงกระดูกและกระดูกอ่อน ช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความแก่ชรา
นอกจากนี้วิตามินซียังมีความสำคัญต่อการรักษาความหนาแน่นของกระดูก ทำให้กระดูกของผู้หญิงในวัยทองมีความแข็งแรงมากขึ้นมีโอกาสที่กระดูกจะหักน้อยลง นอกจากนี้ยังอาจช่วยบรรเทาอาการร้อนวูบวาบได้ และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจซึ่งมักเกิดขึ้นหลังวัยหมดประจำเดือนด้วย ปริมาณที่แนะนำต่อวัน คือ 75 มก.
*ข้อควรระวัง : การทานวิตามินซีมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องร่วง คลื่นไส้ และปวดท้องได้ ดังนั้นอย่ารับประทานเกิน 2,000 มก. ต่อวัน
คลินิกสุขภาพและความงาม ที่เจาะลึกการดูแลสุขภาพตั้งแต่ระดับเซลล์โดยทีมคุณหมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านเวชศาสตร์ชะลอวัย ให้การดูแลทั้งด้านสุขภาพภายในและความงามภายนอก และยังพร้อมไปด้วย ทีมงานที่มากประสบการณ์มีความใส่ใจ พร้อมที่จะดูแลคุณอย่างดีที่สุด ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา นำโดย “คุณหมอแชมป์ ผิวอมตะ” ประกาศนียบัตรจบหลักสูตรคีเลชั่นบำบัด และ การบำบัดด้วยสารแคนนาบิโอนอยด์ แผนกผิวหนัง ศูนย์การแพทย์เมานท์ไซนาย ไมอามี ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา และมีความเชี่ยวชาญในเรื่องของการดูแลคนวัยทองมากที่สุด
จากเรื่องราวทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นวัยทองควรกินวิตามินอะไร และวัยทองควรดูแลตัวเองอย่างไร เป็นสิ่งที่ควรรู้และควรทำตาม เพราะการดูแลตัวเองก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวัยทองแบบเต็มขั้น นอกจากจะช่วยลดปัญหาที่คุณอาจจะเจอแล้ว ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นการเตรียมตัวเองให้มีความแข็งแรงตั้งแต่เนิ่น ๆ เป็นการเตรียมพร้อมในการปรับสุขภาพของตัวเอง แม้อายุจะมากขึ้นแต่ก็ยังคงใช้ชีวิตได้อย่างสมบูรณ์และแข็งแรงเต็มที่ มีความสุขกับครอบครัวไปได้อย่างยาวนาน
Vitalia Wellness Clinic
Map: https://goo.gl/maps/6LeyqUBkA9P2
เวลาเปิดบริการ Tue-Sun เวลา 10:00 น.- 18:00 น.
Tel 02-077-7801
LineID : https://lin.ee/87PIlNqO